Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เด็กเล็กกับการปลูกฝังการรักภาษาอังกฤษ

Posted By Plook TCAS | 22 มิ.ย. 66
514 Views

  Favorite

          ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองที่จำเป็นสำหรับเด็กที่ต้องเรียนรู้ เนื่องจากเป็นภาษากลางที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันในระดับโลก พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องปลูกฝังการรักภาษาอังกฤษให้ลูก และการจะทำเช่นนั้นได้ เราต้องปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านเป็นอันดับแรก เมื่อลูกชอบอ่านหนังสือโดยเฉพาะหนังสือภาษาอังกฤษ เรื่องอื่น ๆ ก็พัฒนาได้อย่างมีประสิทธิผล เพราะเด็กเล็กมีความอยากรู้อยากเห็นโดยธรรมชาติ และสามารถเรียนรู้สองภาษาได้พร้อมกัน คือภาษาแม่และภาษาต่างประเทศ เราต้องชี้ชวนลูกให้เห็นความสำคัญของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในทักษะทุกด้านคือ การอ่าน การฟัง การพูด และการเขียน เมื่อลูกโตขึ้นมาอีกหน่อย ก็สร้างเสริมทักษะการแปลคำศัพท์ง่าย ๆ หรือประโยคสั้น ๆ ให้ลูกได้โดยไม่ยาก การปลูกฝังการรักภาษาอังกฤษให้ลูกทำได้ด้วยวิธีการเหล่านี้คือ

 

สร้างทัศนคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษ  

          พ่อแม่ควรพูดคุยแบบสนุก ๆ ไม่เคร่งครัด ไม่เข้มข้น เพื่อเป็นการปูพื้นฐานความรู้และสร้างทัศนคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษ ด้วยการชี้แนะเรื่องความจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และประโยชน์ที่ลูกจะได้รับในอนาคต ทั้งในด้านการศึกษาและการทำงาน ผู้ที่มีความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษเป็นภาษาเพิ่มเติม โอกาสในชีวิตจะเปิดกว้างมากกว่าผู้ที่รู้เพียงภาษาเดียว

 

เสริมสร้างให้ลูกมีนิสัยรักการอ่าน  

          การอ่านช่วยให้เด็กฉลาดคิดและฉลาดทำ เมื่อเริ่มแรกลูกยังอ่านภาษาอังกฤษไม่เก่ง เราก็อ่านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษให้ลูกฟัง และดูภาพสวย ๆ ในนิทาน/หนังสือภาพไปด้วยกัน เมื่อเวลาผ่านไปลูกจะเกิดความคิดว่าอยากอ่านเสียเอง นั่นละ! คุณแม่ทำได้สำเร็จแล้ว และเมื่อลูกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษได้เอง คราวนี้คุณแม่ก็เป็นฝ่ายฟังลูกอ่านได้แล้ว

 

ใช้แอปพลิเคชันช่วยสร้างความสนิทกับภาษาอังกฤษ

          การใช้เทคโนโลยีเป็นดาบสองคม ที่ต้องสอนและแนะนำการใช้ให้ลูกอย่างถูกต้องและเหมาะสม ทั้งด้านเนื้อหา ระยะเวลา และเหตุผลที่ใช้ ปัจจุบันมีการใช้แอปฯ ฟรีมากมายที่เป็นตัวช่วยให้ลูก ๆ ของคุณเก่งภาษาอังกฤษ เช่น Duolingo, Hello English: Learn English,  LearnEnglish GREAT Video และ Urban Dictionary เป็นต้น แต่อย่าปล่อยลูกไว้แต่กับสมาร์ทโฟน ตัวคุณจำเป็นต้องให้เวลากับลูกหลานด้วย จะได้ฝึกภาษาให้เด็ก ๆ สลับไปกับแอปฯ เช่น เปิดให้ลูกฟังสำเนียงภาษาอังกฤษแท้ ๆ ก่อน และลองให้เขาพูดทับเสียงที่ได้ยินให้ทัน ทำเช่นนี้ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที จะทำให้เขาเริ่มคุ้นชินกับสำเนียงที่ไม่ใช่ครูไทยที่คุ้นเคย

 

ใช้เพลง บรรเลงความรู้

          “ดนตรีเป็นภาษาสากล” การเปิดเพลงภาษาอังกฤษให้ลูกน้อยฟังบ่อย ๆ ตั้งแต่เด็กจะเป็นการฝึกทักษะการฟังแบบเพลิดเพลินที่สุด เด็กจะเริ่มจากการฟัง จากนั้นธรรมชาติจะสอนให้เขาร้องเพลง จะเนื้อผิดเนื้อถูกไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ความกล้าในการออกเสียง การฝึกจับเสียงคำศัพท์ต่าง ๆ เทคนิคง่าย ๆ คือลองเปิดเพลงให้ลูกฟัง เพลงไหนที่ลูกชอบ เขาจะขอฟังซ้ำ พยายามร้องตามโดยอัตโนมัติ ฟังแล้วฟังอีก นั่นล่ะ เข้าเป้าแล้ว จากนั้นคุณก็ล็อกเป้าเพลงนี้ให้ลูกฟังบ่อย ๆ เพราะการให้ลูกฝึกจากเพลงที่ลูกชอบ จะทำให้ทักษะของลูกพัฒนาได้ดีกว่าการเลือกแต่เพลงที่คุณชอบ และเมื่อลูกมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านบทเพลงแล้ว ความบันเทิงและอรรถรสจึงเกิดขึ้น พ่อแม่ลูกร่วมกันร้องเพลง ร่วมกันถอดความหมายแบบไม่จริง ๆ แต่อย่างน้อยให้พอสื่อสารได้ว่า เพลงนี้เกี่ยวกับอะไร ชวนคุยและค่อย ๆ เล่าให้ลูกฟัง

 

การ์ตูน เพื่อนสนิทของลูกที่ช่วยปลูกทักษะทางภาษา  

         การ์ตูนกับเด็กเป็นของคู่กัน แต่การ์ตูนที่จะเติมทักษะทางภาษาอังกฤษให้ลูกได้ควรเป็นการ์ตูนภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นการใช้ภาษาง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยห้ามเปิดเวอร์ชันพากย์ไทยให้ลูกฟังเด็ดขาด ให้ลูกคุ้นเคยกับการได้ยินเสียง สำเนียง และอารมณ์ของเรื่องในรูปแบบที่เป็นภาษาอังกฤษฉบับเจ้าของภาษา เชื่อเถอะว่า ในครั้งแรก ๆ แม้ว่าลูกของคุณจะแปลความเนื้อหาไม่ได้เลย แต่เขาเข้าใจและมีอารมณ์สนุกสนานเพลิดเพลินไปตามเนื้อเรื่อง เพราะการ์ตูนคือเครื่องมือกระตุ้นการเรียนรู้ตามช่วงวัยของเขา ดังนั้นปล่อยให้ลูกได้ฟัง ได้แปล ได้ตีความตามความเข้าใจของเขา จนเกิดเป็นความผูกพันกับตัวละคร กับเนื้อเรื่อง เมื่อดูและฟังบ่อยครั้งเข้า ลูกจะซึมซับภาษาอังกฤษ ทำให้เกิดภาพจำในสมองที่เกิดจากตาดู หูฟัง และมีการถ่ายทอดคือการพูด เป็นการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษในทุกด้านให้ลูก

 

สร้างกิจวัตรหลากหลายที่น่าสนใจและสนุกสนาน 

          เราสามารถสร้างกิจวัตรสั้น ๆ ง่าย ๆ และทำบ่อย ๆ สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้ลูก เพื่อดึงความสนใจของลูกให้รักภาษาอังกฤษ เช่น การเล่นเกมภาษาอังกฤษกับลูกประมาณยี่สิบนาทีหรือครึ่งชั่วโมง หลังจากลูกกลับจากโรงเรียนและทำการบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว หรืออ่านนิทานภาษาอังกฤษกับลูกก่อนนอน หากที่บ้านมีพื้นที่เพียงพอ เราอาจสร้างมุมภาษาอังกฤษ และให้ลูกมีส่วนร่วมในการจัดเก็บข้าวของ หนังสือที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษไว้ที่มุมนี้ ลูกจะได้มาใช้บริการได้โดยสะดวก หรือในวันหยุด กลุ่มผู้ปกครองสามารถรวมกลุ่มกันสร้างกิจกรรม ชวนลูกทำกิจกรรมกลุ่มด้านภาษาอังกฤษได้ เช่น ให้ลูกเล่นละครตามการ์ตูนที่ชอบ หรือเล่านิทาน จะพูดผิดพูดถูกบ้างก็ไม่เป็นไร เป็นการสั่งสมประสบการณ์ สร้างเสริมความคุ้นเคยกับภาษา และกล้าพูดภาษาอังกฤษ แล้วลูกก็จะพูดภาษาอังกฤษได้ในเวลาของเขาเอง

 

          วัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เราจะพัฒนาให้ลูกเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ ทั้งการฟัง การอ่าน การพูด และการเขียน รวมทั้งการแปลได้อีกด้วย พ่อแม่ต้องสังเกตความสนใจและการตอบสนองของลูกต่อกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดให้ เช่น ชอบหนังสือนิทานหรือดูการ์ตูน พ่อแม่ก็จัดหาสิ่งเหล่านั้นมาให้ลูก เพื่อเป็นวัตถุดิบในการตั้งต้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของลูก ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานในครอบครัวทั้งของลูกและพ่อแม่ ทั้งนี้โดยดูความสนใจของลูก และความพอใจในกิจกรรมและผู้ร่วมกิจกรรม พ่อแม่มีหน้าที่เป็นผู้นำทาง ชี้แนะ ชักชวน ให้ความรู้ และที่สำคัญคือต้องอดทนและไม่เร่งรัดจนลูกเครียด

 

ณัณท์

 

ข้อมูลอ้างอิง   https://learnenglishkids.britishcouncil.org/parents/helping-your-child/how-start-teaching-kids-english-home  How to start teaching kids English at home

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook TCAS
  • 29 Followers
  • Follow